You are currently viewing สถาบันวานิตาเพื่อพัฒนาวิสาหกิจชุมชน

          “ศักยภาพของสตรีจะสามารถสร้างประโยชน์ในมิติเชิงเศรษฐกิจและสังคม พร้อมกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน เพื่อนำไปสู่การสร้างสันติภาพได้ในอนาคต”

           สถาบันวานิตาเพื่อพัฒนาวิสาหกิจชุมชน (WANITA Economic Empowerment Academy) ซึ่งอยู่ภายใต้การสนับสนุนของ OXFAM GB ประเทศไทย พร้อมกับความเชื่อที่ว่าศักยภาพของสตรีจะสามารถสร้างประโยชน์ในมิติเชิงเศรษฐกิจและสังคม พร้อมกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน เพื่อนำไปสู่การสร้างสันติภาพได้ในอนาคต

           สถาบันวานิตาฯ ก่อกำเนิดมาจากการที่ชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสตรี ซึ่งต้องปรับตัวเป็นอย่างมากกับบทบาทที่เปลี่ยนไปเมื่อต้องกลายมาเป็นผู้นำของครอบครัวที่ต้องเป็นเสาหลักในการหารายได้ วัตถุประสงค์ของสถาบันวานิตาฯ คือการมุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำของสตรีพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) โดยมีแนวคิดในการสร้างจุดเชื่อมประสานกลางในงานส่งเสริมกลุ่มอาชีพและสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของสตรีในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในลักษณะการให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การเป็นแหล่งเรียนรู้ เพิ่มพูนศักยภาพ/องค์ความรู้ รวมทั้งพัฒนาทักษะในด้านธุรกิจและภาวะผู้นำของสตรี นอกจากนี้จะดำเนินการเชื่อมต่อกับภาคเอกชนและธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อสนับสนุนการเปิดตลาดใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ของกลุ่มสตรี

           นอกจากการเสริมสร้างรายได้ สถาบันวานิตาฯ ยังคงเน้นการสื่อสารที่สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวของวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ผ่านรูปแบบของสินค้าที่หลากหลายที่มาจากกลุ่มอาชีพสตรีในสามจังหวัดชายแดนใต้ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มแรกได้ทำงานร่วมกับกลุ่มอาชีพสตรีจำนวน 56 กลุ่ม 56 ชุมชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และสี่อำเภอของจังหวัดสงขลา ซึ่งมีสินค้าประกอบไปด้วยอาหาร งานจักสาน และงานกระจูด ฯลฯ แต่ต่อมาได้พัฒนาสินค้าหลักได้แก่ กล้วยหินกรอบแก้ว ซึ่งมีเอกลักษณ์และอร่อย เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

           หนึ่งในความสำเร็จของสถาบันวานิตาฯ  คือการที่สามารถทำให้กลุ่มสตรีเครือข่ายมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และสนับสนุนให้กลุ่มสตรีสามารถดำเนินธุรกิจอยู่ในพื้นที่ โดยที่ไม่ต้องย้ายไปใช้แรงงานในเมือง และสามารถดึงคนที่ว่างงานเข้ามาทำงานในพื้นที่เพิ่มได้อีก ในอนาคตสถาบันวานิตาฯ มุ่งหวังการสร้างรากฐานของกลุ่มอาชีพให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน รวมทั้งสร้างตัวเองให้เป็นศูนย์ธุรกิจเพื่อสังคมที่สามารถหากำไรได้และสร้างความตระหนักทางสังคมไปพร้อมกัน