You are currently viewing สศช. หารือความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับ ADB พร้อมเปิดตัว Thailand Green Incubator

        เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 เลขาธิการ สศช. พร้อมด้วยนายวันฉัตร สุวรรณกิตติ รองเลขาธิการ สศช. และเจ้าหน้าที่ สศช. ได้ให้การต้อนรับ คณะบอร์ดบริหารระดับสูงของธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) เพื่อหารือในประเด็นความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่าง ADB กับประเทศไทย และร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวโครงการ Thailand Green Incubator ซึ่งเป็นความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่าง สศช. และ ADB เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายเศรษฐกิจ Bio-Circular-Green (BCG) Economy ของประเทศไทย

        ในโอกาสดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างกันอย่างรอบด้าน โดย ADB ได้นำเสนอขั้นตอนกระบวนการความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่าง สศช. และ ADB ภายใต้โครงการ Thailand Green Incubator รวมถึงบทบาทที่สำคัญของ สศช. ในฐานะหน่วยงานบริหารโครงการ (Executing Agency) ร่วมกับสำนักงานผู้แทน ADB ประจำประเทศไทย เพื่อการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเตรียมความพร้อมในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะดำเนินการในช่วงปี พ.ศ. 2566 – 2569 (สามารถขยายระยะเวลาต่อได้ตามความเหมาะสม) โดยภารกิจที่สำคัญภายใต้โครงการ Thailand Green Incubator คือการพัฒนาแนวทางการคัดเลือกโครงการที่สนับสนุนการพัฒนาสีเขียว รวมถึงการพัฒนาสีน้ำเงิน ธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงการหาเงินทุนสนับสนุนการพัฒนาโครงการจากแหล่งต่าง ๆ นอกเหนือจากเงินทุนภาครัฐ
 
        ในการนี้ เลขาธิการ สศช. ได้เน้นย้ำถึงการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านเทคนิคและวิชาการร่วมกันจำนวน 8 ด้าน ได้แก่ (1) ผลกระทบของการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำต่อเศรษฐกิจมหภาคของประเทศไทย (2) การปรับโครงสร้างการผลิตของ SMEs ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (3) การพัฒนาตัวชี้วัดที่เหมาะสมและแม่นยำเพื่อใช้ในการประเมินผลตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทที่เกี่ยวข้อง (4) การพัฒนาและเสริมสร้างงานสีเขียว (Green Jobs) (5)  การจัดการด้านการเข้าถึงและอัตราค่าบริการที่เหมาะสมต่อผู้รับบริการทุกกลุ่ม เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มุ่งสู่สังคมสีเขียว (6) การบริหารจัดการเมืองฟองน้ำ และการพัฒนาเมืองต้นแบบที่เหมาะสมต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (7) การออกแบบกลไกการจัดหาเงินทุนเพื่อช่วยให้ชุมชนท้องถิ่นกลายเป็นผู้ให้บริการชดเชยคาร์บอน และ (8) การประเมินผลกระทบโครงการภาครัฐ คือโครงการ Zoning by Agri-Map ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
 
        นอกจากนี้ สศช. ยังได้ให้ความสำคัญต่อกิจกรรมที่ ADB นำเสนอเพื่อเสริมสร้างศักยภาพภายใต้โครงการ Thailand Green Incubator ซึ่งประกอบด้วย (1) การเพิ่มพูนความรู้ความสามารถ (Capacity Building) ในด้านต่าง ๆ โดยวิทยากรจาก ADB และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นที่มีความสนใจร่วมกัน อาทิ เทคโนโลยีสีเขียวและการเงินสีเขียว (Green Finance) และการเงินสีน้ำเงิน (Blue Finance) (2) การพัฒนาแนวทางการคัดเลือกโครงการที่สนับสนุนการพัฒนาสีเขียว รวมถึงการพัฒนาสีน้ำเงิน ธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ และการหาเงินทุนสนับสนุนจากแหล่งต่าง ๆ นอกเหนือจากเงินทุนภาครัฐ (3) การแบ่งปันความรู้และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best practices) ในระดับภูมิภาคเพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนาแนวนโยบาย มาตรการ และกฎระเบียบ ในประเด็นด้านการพัฒนาให้เป็นรูปธรรม และ (4) การศึกษาดูงาน (Study Tour) ณ สำนักงานใหญ่ ADB กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญของ ADB ในแต่ละสาขา โดยมีกำหนดระยะเวลาประมาณ 3 – 5 สัปดาห์
 
        ทั้งนี้ ผู้แทนสำนักงาน ADB ประจำประเทศไทย เห็นว่าโครงการ Thailand Green Incubator จะมีส่วนช่วยยกระดับความรู้ ความเข้าใจ และความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐในการพิจารณาดำเนินโครงการที่ส่งเสริมนโยบายเศรษฐกิจ BCG ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และช่วยให้ประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2065 ได้
 
ข่าว : กองยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ
ภาพ : เมฐติญา วงษ์ภักดี