You are currently viewing “Leaving No One Behind ด้วยกองทุนยุติธรรม”

เป้าหมายที่ 1

ยุติความยากจนทุกรูปแบบในทุกพื้นที่

เป้าหมายย่อยที่ 1.2

ภายในปี พ.ศ. 2573 ลดสัดส่วน ชาย หญิง และเด็กในทุกช่วงวัย ที่อยู่ ภายใต้ความยากจนในทุกมิติตาม นิยามของแต่ละประเทศ ให้ลดลง อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง

          บ้านชากไทย ตั้งอยู่ที่ อำเภอเขาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี เป็นหนึ่งในต้นแบบการบริหารจัดการหนี้สินภายในชุมชน เพื่อตอบสนองต่อนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งมุ่งเน้นการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม สร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากชุมชน ผ่านการบริหารจัดการเงินทุนที่มีอยู่ในชุมชนให้เกิดความคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด

          เดิมทีบ้านชากไทยมีกองทุนอยู่หลากหลายรูปแบบ มีแนวคิดในการจัดตั้ง การรวมกลุ่ม ตลอดจนแนวทางการบริหารจัดการภายในกองทุนที่แตกต่างกันไป โดยกองทุนที่ดำเนินกิจการเพื่อแสวงหาผลกำไรจะเน้นการปล่อยกู้ให้กับสมาชิก ซึ่งปัญหาที่ตามมาในภายหลังคือ การกำหนดเงื่อนไขและระเวลาในการชำระหนี้ของแต่ละกองทุนไม่ตรงกัน เปิดโอกาสให้คนในชุมชนกู้ยืมได้หลายกองทุน และอัตราการปล่อยกู้ที่สูงทำให้คนที่กู้เงินจากหลายกองทุนไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ทัน เกิดการกู้ยืมจากกองทุนหนึ่งเพื่อไปชำระหนี้อีกกองทุน เกิดเป็นหนี้หมุนเวียน หนี้ซ้ำซ้อนไม่สิ้นสุดและมีแต่จะเพิ่มพูนขึ้น  ดังนั้น เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนดีขึ้น และให้แต่ละกลุ่มกองทุนได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม ภายใต้การทำงานที่เชื่อมโยงและเกื้อกูลกัน จึงได้เกิดแนวคิดในการจัดระบบกองทุนทั้งหลายในรูปแบบ การบูรณาการกองทุน ภายใต้ชื่อ “ศูนย์จัดการกองทุนชุมชนบ้านชากไทย” ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มกองทุนในชุมชนจำนวน 13 กลุ่ม มุ่งเน้นการบริหารจัดการกองทุนให้มีความเป็นเอกภาพ ลดปัญหาการเป็นหนี้ของคนในชุมชน เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการหนี้ของคนในชุมชนให้เป็น 1 ครัวเรือน 1 สัญญาในที่สุด

          การบริหารจัดหนี้ไปสู่ 1 ครัวเรือน 1 สัญญา ของศูนย์จัดการกองทุนชุมชนบ้านชากไทย ไม่ใช้วิธีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้เท่ากัน หรือปรับระยะเวลาการกู้ยืมและการชำระคืนของแต่ละกองทุนให้พร้อมกัน แต่ใช้วิธีการออกระเบียบศูนย์จัดการกองทุนชุมชนในเรื่องการบริหารจัดการหนี้ ภายใต้แนวคิดขยายระยะเวลาการชำระหนี้ ซึ่งไม่ขัดต่อระเบียบและข้อบังคับของแต่ละกองทุนที่เป็นสมาชิกอยู่ โดยใช้ “แพ็คเกจ 3 5 7” คือ การแบ่งระยะเวลาการชำระหนี้เป็น 3 ปี 5 ปี และ 7 ปี โดยครัวเรือนที่เข้าร่วม 1 ครัวเรือน 1 สัญญา สามารถเลือกวิธีการชำระคืนหนี้ที่เหมาะสมกับตนเอง และให้กลุ่มหรือองค์กรติดตามสนับสนุนครัวเรือนที่เข้าสู่กระบวนการให้สามารถบริหารจัดการการเงินของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          โครงการ 1 ครัวเรือน 1 สัญญา จะช่วยลดปัญหาหนี้ซ้ำซ้อน หรือหนี้หมุนเวียนที่เกิด จากการกู้ยืมเงินจากกองทุนหนึ่งมาใช้อีกกองทุนหนึ่ง อันจะนำไปสู่หนี้เสียในท้ายที่สุด ทั้งนี้ การนำระบบการจัดการหนี้ดังกล่าวมาใช้จะช่วยพัฒนาคนในชุมชนให้เกิดความแข็งแรง สร้างภูมิต้านทานหนี้ สร้างมูลค่าจากทุนที่ตนกู้มาให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อไม่เกิดหนี้ใหม่ ลดหนี้เก่าจนนำไปสู่การไร้หนี้ มีเครื่องมือในการบริหารเงิน ก็จะเกิดการต่อยอด ทั้งคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ นำไปสู่สังคมที่พัฒนาต่อไป

ที่มา:

https://chakthaicfmcenter.com/wp-content/uploads/2020/07/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-1.pdf

ที่มาภาพประกอบ:

สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเขาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี

แหล่งข้อมูลออนไลน์ สืบค้นเมื่อ วันที่ 24 กรกฎาคม 2563