
เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 สหภาพยุโรปและโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) และสหภาพยุโรป ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เปิดตัว โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งการนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนไปปฏิบัติในพื้นที่ ระยะที่ 2 (SDGs Localization Phase 2: SDGs-L 2.0) ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ (UNCC) กรุงเทพฯ โดยมี นางสาวนีฟ คอลิเออร์-สมิธ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย นายสันติธร ยิ้มละมัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และนางซารา เรโซอาญิ อุปทูตรักษาการสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย และผู้แทนจากจังหวัดนำร่องในโครงการ SDGs Localization Phase 2 หน่วยงานรัฐ ทีม UN ประจำประเทศไทย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน
สำหรับโครงการ SDGs-L นี้ เกิดขึ้นจากการที่ UNDPได้เล็งเห็นถึงความท้าทายที่เปลี่ยนแปลงของโลกในด้านสภาพภูมิอากาศและดิจิทัล ทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับพื้นที่ที่ไม่ใช่แค่ในระดับชาติเท่านั้น ซึ่งการขับเคลื่อนดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยในช่วงที่ผ่านมาได้ขับเคลื่อน ระยะที่ 1 (SDGs-L 1.0) ไปแล้ว ซึ่งได้เก็บข้อมูลพร้อมเสริมสร้างศักยภาพของหน่วยงานระดับจังหวัดผ่านการจัดทำ SDGs Profile ใน 15 จังหวัด นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการในระยะดังกล่าว ซึ่งเป็นระยะที่ 1.5 (SDGs-L 1.5) เพื่อนำ SDGs Profile ให้เป็นต้นแบบสำหรับจังหวัดอื่น ๆ เพื่อสามารถจัดทำของจังหวัดตนเองได้ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการประเมินด้านการเงิน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมลภาวะด้วย
สำหรับการขับเคลื่อน SDGs-L ในระยะที่ 2 (SDGs-L 2.0) ให้ความสำคัญกับการเร่งรัดการขับเคลื่อนเพื่อบรรลุ SDGs โดยมี 3 แกนหลัก ได้แก่ Go Deep คัดเลือกจังหวัดเพื่อศึกษาข้อมูลและเป็นต้นแบบสำหรับจังหวัดอื่น ๆ Go Broad นำเครื่องมือที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลไปเป็นแนวทางประกอบการจัดทำ SDGs Profile เพื่อขยายสู่จังหวัดอื่น ๆ และ Go Mass เปิดโอกาสใหม่ ๆ สู่ระดับพื้นที่
ในงานดังกล่าว ผู้แทน สศช. ได้นำเสนอภาพรวมการดำเนินงานขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย การประเมินแนวโน้มสถานะการบรรลุ SDGs ในประเทศไทย และประเด็นความท้าทายที่ต้องให้ความสำคัญจากการประเมินในรูปแบบ Trend-to-Target ได้แก่ เป้าหมายที่ 8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ เป้าหมายที่ 15 ระบบนิเวศบนบก และเป้าหมายที่ 17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาผ่านการจัดทำแผนการให้ความช่วยเหลือทางการเงินที่สอดคล้องกับศักยภาพ และบริบทของประเทศไทย การยกระดับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร และการปรับปรุงระบบภาษีและการจัดสรรงบประมาณให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
ในช่วงเวทีเสวนาระดับสูงในหัวข้อ “ข้อมูล × นโยบาย × การลงทุน × ผู้คน: อนาคตของการขับเคลื่อน SDG ในระดับจังหวัดและท้องถิ่น” นางสาวดวงพร ดรงค์สุวรรณ นักการทูตชำนาญการ (ที่ปรึกษา) กระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการจัดทำ SDGs Profile ที่ช่วยในการระบุประเด็นที่ควรมีการเร่งรัดการดำเนินการและระบุความท้าทายเฉพาะของแต่ละจังหวัด ผศ. ชล บุนนาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) เสนอว่า ประเทศไทยควรนำข้อมูล SDGs มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์จากการจัดทำฐานข้อมูลกลางและข้อมูลระดับพื้นที่ รศ.ดร. ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนงานและยุทธศาสตร์องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) นำเสนอถึงความสำคัญของข้อมูล SDGs ในการเพิ่มศักยภาพและส่งเสริมการลงทุนในท้องถิ่น และ ดร. อนรรฆ เสรีเชษฐพงษ์ นักเศรษฐศาสตร์การพัฒนา UNDP ประเทศไทย กล่าวว่า ข้อมูลถือเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางการลงทุน ดังนั้น การจัดเก็บข้อมูล SDGs จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับภาคเอกชนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจและสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนที่สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ เพื่อให้การขับเคลื่อน SDGs มีประสิทธิภาพและตระหนักรู้มากขึ้น ผู้แทนจาก 7 จังหวัดนำร่องในการจัดทำ SDGs Profile ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ตาก นราธิวาส หนองคาย ระยอง และสระแก้ว ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยมีการระบุความท้าทายในการขับเคลื่อน SDGs อาทิ เชียงใหม่มีปัญหาด้านมลพิษเชียงรายมีปัญหาการพัฒนาระบบการศึกษา ตากและนราธิวาสยังคงติดอยู่ในกับดักความยากจน หนองคายมีปัญหาด้านข้อมูลที่ขาดการจัดหมวดหมู่อย่างเป็นรูปธรรม สระแก้วมีปัญหาด้านความมั่นคง และระยองที่มีประชากรแฝงจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากกลุ่มจังหวัดมีการนำเสนอแนวคิดในการส่งเสริมการขับเคลื่อน SDGs ในระยะต่อไป โดยมุ่งเน้นการบูรณาการแผนพัฒนาจังหวัดให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาระดับพื้นที่ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในจังหวัดมีส่วนร่วมเพื่อขับเคลื่อนไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ตัวแทนจากกลุ่มภาคประชาสังคมอื่น ๆ ยังได้ร่วมนำเสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาการขับเคลื่อน SDGs ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดย สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย นำเสนอประเด็นการดูแลและคุ้มครองกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิ์ความเป็นมนุษย์ได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการบรรลุ SDGs เป้าหมายอื่น ๆ สมาคมผู้พิการ กล่าวว่า ความพิการไม่ใช่อุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ หากได้รับโอกาสและการสนับสนุนที่เหมาะสม มูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุ นำเสนอการพัฒนาศักยภาพของชุมชนให้มีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้ และกลุ่มเยาวชน ได้นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชน โดยหากสามารถเปิดโอกาสให้เยาวชนมีบทบาทและได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสม จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืน
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SDGs Profile: https://www.undp.org/thailand/publications/sdg-profiles-15-pilot-provinces-thailand
กองยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ