มหาสมุทรเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตนานาชนิด ที่รวมถึงสาหร่ายซึ่งเป็นทรัพยากรทางธรรมชาติที่ยังคงรอคอยให้มนุษย์นำไปใช้ประโยชน์และพัฒนาต่อไปได้อย่างมหาศาล สาหร่ายเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศที่ดำรงรักษาความอุดมสบบูรณ์ของท้องทะเลและผืนน้ำ เป็นแหล่งพักพิงและแหล่งอาหารสำหรับสัตว์น้ำนานาชนิด ที่เผื่อแผ่มายังสิ่งมีชีวิตในภาคพื้นดินอย่างมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การสร้างความเท่าเทียมทางสังคมและวัฒนธรรม รวมทั้งมีบทบาทสำคัญในการลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนบทบาทของสตรีในชุมชนชายฝั่งทะเลอีกด้วย อย่างไรก็ตามอาจมีการตั้งคำถามถึงประโยชน์และโทษที่อาจจะได้รับจากสาหร่ายมีมากในธรรมชาติจนเสียสมดุล หรือเป็นแหล่งอาหารทางเลือกของมนุษย์ที่มีบทบาทดูดซับของเสียในท้องทะเลและก๊าซพิษของโลกที่ยั่งยืนและปลอดภัยต่อการนำมาบริโภคหรือไม่ บทความนี้จะบอกเล่าถึงประโยชน์ และมลพิษจากสาหร่ายทะเล ชวนตั้งคำถามถึงสถานการณ์สาหร่ายสะพรั่งที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ แนวทางการแก้ปัญหาร่วมกันเพื่อความยั่งยืนของระบบนิเวศทางทะเลต่อไป
สาหร่ายทางเลือกแห่งท้องทะเล
ข้อมูลจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้แบ่งสาหร่ายทะเลออกเป็น 4 กลุ่ม ตามลักษณะของเม็ดสีในเนื้อเยื่อ คือ 1.สาหร่ายสีเขียว 2.สาหร่ายสีน้ำตาล 3.สาหร่ายสีแดง 4.สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน สาหร่ายสามารถเจริญเติบโตได้ในแนวชายฝั่งทะเล ทะเลสาบและผืนน้ำ คาดการณ์ว่าสาหร่ายถูกบันทึกไว้ในวัฒนธรรมของเอเชียตะวันออกตั้งแต่ยุคโบราณ องค์ความรู้ในการใช้สาหร่ายแต่ละชนิดถูกส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น เช่น ประเทศญี่ปุ่น สาหร่ายมักจะถูกใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารในชีวิตประจำวันซึ่งถูกดัดแปลงไปในรูปแบบต่าง ๆ ปัจจุบันยังไม่มีการจัดทำมาตรฐานอาหารสากล (Codex Alimentarius) ที่กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารที่ทำมาจากสาหร่ายทะเลหรือสาหร่ายชนิดอื่น ๆ แต่สาหร่ายยังคงได้รับความสนใจเป็นอย่างมากทั้งในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย โดยหลาย ๆ คนได้ผันตัวมาประกอบอาชีพฟาร์มสาหร่าย เนื่องจากสภาวะโลกร้อนที่ส่งผลต่อการประมงแบบดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็นการจับปลา หรือการเพาะเลี้ยงที่ได้ผลผลิตลดลง นอกจากนี้ ฟาร์มสาหร่ายยังทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศที่ทำหน้าที่กักเก็บคาร์บอน และหมุนเวียนก๊าซไนโตรเจน บำบัดสารอาหารหรือสิ่งปฏิกูลจากสัตว์ และช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่มีความเปราะบางให้ดียิ่งขึ้น
สาหร่ายถูกนำมาใช้ประโยชน์และเป็นส่วนหนึ่งของสังคมมาอย่างยาวนาน ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารหรือเป็นอาหารทางเลือก และเป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพให้แก่ชุมชนชายฝั่งทะเล เพื่อใช้ต่อสู้กับภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นที่ส่งผลต่อการประกอบอาชีพดั้งเดิม
บทบาทหลักของสาหร่ายต่อสิ่งมีชีวิตบนผืนดิน
ประโยชน์ของสาหร่ายในด้านเศรษฐกิจ สาหร่ายถูกนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมอาหารของมนุษย์และสัตว์ ปุ๋ยสำหรับภาคการเกษตร นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารเสริม เครื่องสำอาง เคมีภัณฑ์สีเขียว ชีวพลาสติก วัสดุก่อสร้าง และเครื่องนุ่งห่ม การส่งเสริมการวิจัยและการพัฒนาสาหร่ายจะนำไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมการขับเคลื่อนและสร้างการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงทางทะเลที่เติบโตอย่างรวดเร็วจากการเพาะเลี้ยงสาหร่าย จะสามารถสร้างการจ้างงานแก่ผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกได้อีกด้วย

ที่มา: The World Bank. (2023).
จากรายงานของ UNCTAD ในปี 2024 ประมาณการณ์ภาพรวมของตลาดสาหร่ายโลกล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 1.7 หมื่นล้านดอลล่าสหรัฐ โดยมีการประยุกต์ใช้หรือคิดค้นสาหร่ายใหม่ ๆ เป็นการสร้างมูลค่าทางการตลาดมากยิ่งขึ้น จากรายงานของธนาคารโลก ในปี 2023 ได้ประเมินว่า ภายในปี 2030 มูลค่าตลาดภาคอุตสาหกรรมสาหร่ายจะมีมูลค่ามากถึง 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และในภาคตลาดของสารเร่งเชิงชีวภาพ อาหารสัตว์ในภาคปศุสัตว์ อาหารสัตว์เลี้ยง สารเติมแต่งเพื่อลดก๊าซมีเทนที่ถูกเติมเข้าไปในอาหารสัตว์ จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2030 ในขณะที่ตลาดอาหารเสริม โปรตีนทางเลือกไบโอพลาสติก วัสดุชีวภาพ เส้นใย สามารถมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2030 จึงสะท้อนให้เห็นว่าสาหร่ายสามารถนำมาพัฒนาและวิจัยเพื่อต่อยอดด้านอุตสาหกรรมได้ในหลากหลาย อุตสาหกรรมสาหร่ายสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและอาจจะเป็นแหล่งอาหารทางเลือกในอนาคตโดยสาหร่ายอาจสามารถช่วยแก้ไขปัญหาสถานะการณ์ความมั่นคงทางด้านอาหารและสารอาหารหากมีการศึกษาและวิจัยเพิ่มเติมถึงคุณประโยชน์ สารพิษหรือสารตกค้างในสาหร่ายแต่ละชนิดเพื่อความเชื่อมั่นในการบริโภคของประชาชน
ประโยชน์ของสาหร่ายในการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในชุมชนท้องถิ่น สาหร่ายได้สร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมให้แก่การท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับชุมชนชายฝั่งทะเล เช่น การดำน้ำการตกปลา และกิจกรรมต่อเนื่องจากการท่องเที่ยว นอกจากนี้ สาหร่ายทะเลยังมีบทบาทในการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะการเพิ่มบทบาททางเศรษฐกิจให้กับผู้หญิงมากขึ้น ปัจจุบันผู้หญิงมีบทบาทมากขึ้นในอุตสาหกรรมสาหร่าย พบว่าบริษัท Start – up กว่า 40% บนโลกนี้ มีผู้หญิงเป็นเจ้าของกิจการในการดำเนินงาน แสดงให้ถึงศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความเท่าเทียมทางเพศในอุตสาหกรรมสาหร่าย
ประโยชน์ของสาหร่ายต่อสังคมและวัฒนธรรม สาหร่ายทำให้คนมีความสำนึกต่อถิ่นที่อยู่มีความสัมพันธ์กับธรรมชาติ สร้างอัตลักษณ์ และวิถีชีวิตของชุมชนชายฝั่งทะเลและชนพื้นเมืองทั่วโลก เช่น วัฒนธรรมการเก็บเกี่ยวสาหร่าย หรือการจับสัตว์น้ำในแหล่งที่อยู่อาศัยของสาหร่าย ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมชุมชนชายฝั่งทะเล นอกจากนี้ สาหร่ายยังถูกใช้ในอาหารประจำชาติ ยา เสื้อผ้า องค์ความรู้ ศิลปะ พิธีกรรมต่าง ๆ และเป็นของขวัญในงานสำคัญต่าง ๆ ในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นและเป็นส่วนสำคัญของสังคมและวัฒนธรรมดั้งเดิมของชุมชนท้องถิ่นที่สร้างความผูกผัน ความเชื่อของผู้คนไว้กับท้องถิ่นของตน

ผลกระทบของการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของสาหร่ายทะเล
แม้ว่าสาหร่ายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในหลากหลายรูปแบบ และมีคุณประโยชน์ต่อระบบนิเวศทั้งท้องทะเลและระบบนิเวศบนบกอย่างมหาศาล อย่างไรก็ตามหากมีจำนวนสาหร่ายมากเกินในระบบนิเวศจะส่งผลให้ระบบนิเวศเสียสมดุล ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และระบบเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล อาทิ ปรากฏการณ์ สาหร่ายสะพรั่ง ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การใช้ปุ๋ยเคมีในภาคการเกษตร น้ำเสียจากภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนที่ปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ที่ส่งผลให้มีการเติบโตอย่างรวดเร็วของแพลงก์ตอนพืชและสาหร่าย ในแหล่งน้ำจืด รวมทั้งชายฝั่งทะเล ที่ส่งผลให้เกิดมลพิษทางน้ำทั่วโลก สาหร่ายสะพรั่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศเป็นอย่างมากเมื่อสาหร่ายตายลงจะจมลงสู่ท้องทะเล ถ้ามีสาหร่ายมากเกินจะทำให้แหล่งน้ำเกิดภาวะขาดออกซิเจน และเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “เขตมรณะ” (Dead Zone) หรือบริเวณพื้นที่ในมหาสมุทรหรือแหล่งน้ำที่มีปริมาณของออกซิเจนต่ำมาก ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวสิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ทำให้เกิดการตายและการอพยพของสัตว์น้ำจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศทางทะเลมหาศาล ปรากฏการณ์สาหร่ายสะพรั่งมีชื่อเรียกอีกหนึ่งชื่อคือ “กระแสน้ำแดง” (Red Tide) หรือ “ขี้ปลาวาฬ” เกิดจากการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของจุลินทรีย์หรือแพลงก์ตอนบางชนิดที่ทำให้สีของน้ำในทะเลเปลี่ยนไป เกิดจากความแปรปรวนที่เกิดขึ้นต่อระบบนิเวศและคุณสมบัติทางเคมีของแหล่งน้ำ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ ทำให้อาหารทะเลมีการปนเปื้อน นอกจากนี้สาหร่ายที่ใช้บริโภคอาจจะมีโลหะหนักปนเปื้อนอยู่ได้ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว รวมไปถึงสภาพเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเน่าเสียของน้ำ สัตว์น้ำมีจำนวนลดลง ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังชาวประมงท้องถิ่น และระบบนิเวศในพื้นที่อีกด้วย

อุตสาหกรรมแปรรูปสาหร่ายทะเลของประเทศไทย
นโยบายอาหารแห่งอนาคต( Future Food Policy) โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ส่งเสริมการผลิต การวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ การแปรรูปและการตลาด สาหร่ายทะเลและสาหร่ายน้ำจืดของประเทศ ภายใต้แนวทางเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) มุ่งเน้นการร่วมพัฒนาและวิจัยกับท้องถิ่น และนำใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ผสมผสานภูมิปัญญาไทยยกระดับสู่เกษตรมูลค่าสูง เพิ่มรายได้ให้แก่ประเทศและชุมชนท้องถิ่น ลดการนำเข้าและสร้างความมั่นคงทางอาหาร พร้อมลดปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน ปัจจุบัน ประเทศไทยสามารถผลักดันการใช้ประโยชน์จากสาหร่ายได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการร่วมพัฒนาและวิจัย อาทิ การวิจัยและพัฒนาสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินคือโครงการน้ำมันชีวภาพของคุณเจียมจิตต์ บุญสม โครงการผลิตปุ๋ยชีวภาพอัลจินัวของศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่าย ของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) อีกทั้ง หลายบริษัทได้หันมาพัฒนาสาหร่ายเชิงพาณิชย์มากขึ้น เช่น โครงการเพาะเลี้ยงสาหร่ายในกระชังของมูลนิธิ Worldview Climate Foundation ร่วมกับชุมชนชาวประมงที่จังหวัดกระบี่
บทสรุป
สาหร่ายทะเลมีบทบาทสำคัญทั้งต่อระบบนิเวศทางทะเล รวมถึงระบบนิเวศบนผืนดิน มีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในระดับชุมชน ไปจนถึงระดับประเทศ แต่เมื่อภาวะโลกร้อนและกิจกรรมของมนุษย์ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของสาหร่ายที่เปลี่ยนแปลงไป จนเกิดความไม่สมดุลของระบบนิเวศ ก่อให้เกิดมลพิษบริเวณชายฝั่งทะเล ก๊าซพิษ ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศในท้องทะเล การศึกษาและติดตามถึงประโยชน์และผลกระทบของสาหร่ายทะเลอย่างต่อเนื่องจึงเป็นแนวทางสำคัญในการแก้ไขหรือควบคุมปริมาณสาหร่ายสร้างความสมดุลให้แก่ระบบนิเวศอย่างยั่งยืน การลดการปล่อยน้ำเสียหรือสารเคมีจากภาคครัวเรือนลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ โรงงานอุตสาหกรรมควรมีระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ มีแนวทางและกฎหมายในการลงโทษอย่างจริงจัง กล่าวได้ว่า การพัฒนาสาหร่ายทะเลและการลดผลกระทบจากสาหร่ายทะเลต้องใช้ความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ นักวิจัย ผู้พัฒนานวัตกรรมการแปรรูป ภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิ่น ไปจนถึงองค์กรระหว่างประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อลดปัญหาผลกระทบจากสาหร่ายและสร้างความสมดุลให้แก่ระบบนิเวศ หากระบบนิเวศของสาหร่ายมีความสมดุล สาหร่ายจะสร้างประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนได้อย่างมหาศาล อีกทั้งยังจะเป็นประโยชน์ต่อระบบนิเวศในท้องทะเลและเป็นแหล่งพักพิงของสัตว์น้ำนานาชนิด และเป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญให้แก่ชุมชนท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน
กองยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เอกสารอ้างอิง
Fabrice Robinet. (2025). Green gold beneath the waves: How seaweed – and one man’ s obsession – could save the world. Retrived from https://news.un.org/en/story/2025/06/1164131_gl=1*1x8jm0w*_ga*
MjA1NjY4NjczLjE3NDYxNTY4NjU.*_ga_TK9BQL5X7Z*czE3NDk0MzI0ODMkbzgkZzEkdDE3NDk0MzU3NDEkajYwJGwwJGgw
Jenny Howard. (2023). What exactly is a red tide—and how does it affect humans?. Retrived Form https://www.nationalgeographic.com/environment/article/red-tides
John Barry Gallagher. (2022). Kelp won’t help: why seaweed may not be a silver bullet for carbon storage after all. Retrived Form https://theconversation.com/kelp-wont-help-why-seaweed-may-not-be-a-silver-bullet-for-carbon-storage-after-all-178018#:~:text=At%20present%20it’s%20thought%20seaweed,fight%20to%20stop%20climate%20change
Julia Jacobo. (2025). Why scientists are concerned over the record amount of seaweed in the Caribbean. Retrived form https://abcnews.go.com/International/scientists-concerned-record-amount-seaweed-caribbean/story?id=122533091
Sophie Corrigan, Elizabeth J. Cottier-Cook, Phaik-Eem Lim, Juliet Brodie. (2025). THE STATE OF THE WORLD’S SEAWEEDS 2025. Retrived from https://globalseaweedprotect.org/wp-content/uploads/2025/05/State-of-the-Worlds-Seaweeds_FINAL_DOI.pdf
The World Bank. (2023). Global Seaweed New and Emerging Markets Report 2023. Retrived form https://www.worldbank.org/en/topic/environment/publication/global-seaweed-new-and-emerging-markets-report-2023
Thiraphon Singlor. (2021). Ocean Rainforest ฟาร์มสาหร่ายทะเลช่วยลดโลกร้อน ดูแลสุขภาพท้องทะเล เพื่อสุขภาพคนที่ดี และสุขภาพหมูที่แข็งแรง. สืบค้นจาก https://www.sdgmove.com/2021/04/23/ocean-rainforest-seaweeds-kelp-cc-mitigation-healthy-foods-and-feeds/
United Nation. (2024). An Ocean of Opportunities: The Potential of Seaweed to Advance Food, Environmental and Gender Dimensions of the SDGs: United Nations Conference on Trade and Development. Retrived Form https://unctad.org/system/files/official-document/ditcted2024d1_en.pdf
United Trade & Development. (2024). Seaweed holds huge potential to bring economic, climate and gender benefits. Retrived Form https://unctad.org/news/seaweed-holds-huge-potential-bring-economic-climate-and-gender-benefits
กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. (2025). กรมประมง…หนุนอัพเกรดภาคเกษตรด้วยโมเดล BCG ยก “สาหร่ายทะเล” เป็นต้นแบบการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่า สร้างโอกาสให้ชุมชนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเพื่อมุ่งสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน. สืบค้นจาก https://www4.fisheries.go.th/index.php/dof/news_local/1210/238999
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. (2022).“เกษตรฯ” เร่งขับเคลื่อน “นโยบายอาหารแห่งอนาคต”. สืบค้นจาก https://www.moac.go.th/news-preview-441391792779
กองบรรณาธิการไทยรัฐพลัส. (2022). เมื่อ ‘สาหร่ายทะเล’ อาจไม่ใช่หนทางรับมือคาร์บอนฯ ที่ยั่งยืน. สืบค้นจาก https://plus.thairath.co.th/topic/naturematter/101532
กองอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน. (2013). สาหร่ายสาย พืชมหัศจรรย์ สารพันประโยชน์. สืบค้นจาก https://newweb.dmcr.go.th/detailLib/740
คัดคณัฐ ชื่นวงศ์อรุณ และณภัทรดนัย. (2020). ปรากฏการณ์ยูโทรฟิเคชัน (Eutrophication). สืบค้นจาก https://ngthai.com/science/30735/eutrophication/
สยามรัฐออนไลน์. (2025). ชู “สาหร่ายทองคำเขียว” ยกระดับเกษตรมูลค่าสูง ดันสู่ตลาดโลก. สืบค้นจาก https://siamrath.co.th/n/620614










